13 มีนาคม 2560 ณ โรงแรมเชียงใหม่ออคิด จังหวัดเชียงใหม่ นายสนิท แย้มเกษร ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมนิเทศ ติดตาม และประเมินผลโรงเรียนต้นแบบ โครงการจัดทำแผนยกระดับคุณภาพการศึกษาและพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนภาคบังคับสู่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับประเทศ ปีงบประมาณ 2560
สำนักงานบริหารงานการศึกษาภาคบังคับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินการโครงการจัดทำแผนยกระดับคุณภาพการศึกษาและพัฒนาอัตลักษณ์ภาคบังคับสู่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับประเทศปีงบประมาณ 2560 โดยมีการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบจำนวน14 โรงเรียนในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน7แห่ง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้โรงเรียนมีศักยภาพในการพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนและเตรียมความพร้อมสู่โรงเรียนนิติบุคคลบนหลักการ "มีอำนาจบริหารจัดการและมีความรับผิดชอบผลงาน" โดยกำหนดแนวทางให้โรงเรียนและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเสนอแผนงาน โครงการ ภายใต้บริบทวัฒนธรรมและความพร้อมของท้องถิ่น เป็นการปรับระบบการวางแผนที่โรงเรียนมีอิสระในการกำหนดวิธีการดำเนินงานและกระบวนการในการพัฒาได้โดยตรง ตามหลักการ "Top Down - Bottom - up" ภายใต้การดำเนินงานทักษะวิชาการ ทักษะวิชาชีพ และทักษะขีวิต จะก่อให้เกิดการบูรณาการ การจัดการเรียนรู้โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
นายสนิท แย้มเกษร กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้เพื่อชี้แจงความเข้าใจ แก่ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผน ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู และศึกษานิเทศก์ จำนวน 80 คน เพื่อนิเทศ ติดตาม และประเมินผลโรงเรียนต้นแบบโครงการการจัดทำแผนยกระดับคุณภาพสถานศึกษาประจำปีงบประมาณ2560 ชุดโครงการที่2 พัฒนาต้นแบบโรงเรียนสู่ความเป็นเลิศ ยุทธศาสตร์ที่4 การผลิตพัฒนากำลังคนและงานวิจัยที่สอดคล้องกับความต้องการของการพัฒนาประเทศ ภายใต้ชุดโครงการตามจุดเน้น6ยุทธศาสตร์ปฏิรูปการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาลและนโยบายกระทรวงศึกษาธการให้เกิดการวางแผนและขยายผลโครงการพัฒนาต้นแบบโรงเรียนสู่ความเป็นเลิศ พร้อมทั้งเกิดการพัฒนาผ่านข้อมูลและพัฒนาโปรแกรมพื้นฐานข้อมูลระบบสารสนเทศไปจนถึงการรายงานผลการวิจัยและประเมินผลโรงเรียนต้นแบบเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาอัตลักษณ์เด็กไทย ภายใต้บริบทวัฒนธรรมและความพร้อมของท้องถิ่นซึ่งเป็นการปรับระบบการวางแผนให้สถานศึกษาให้มีอิสระในการกำหนดทิศทางและกระบวนการพัฒนาตนเองโดยตรงได้อย่างแท้จริง
