ว่าที่ร้อยตรี
ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.)
เป็นประธานในการประชุมขับเคลื่อนแผนการยกระดับผลการประเมินจากโปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล
(PISA) กลุ่มผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Zoom Meeting พร้อมด้วย นางเกศทิพย์ ศุภวานิช
รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.)
บรรยายพิเศษแก่ผู้เข้าร่วมประชุม
และรับฟังการนำเสนอแผนการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับผลการประเมิน PISA จากผู้อำนวยการ สพม. ทั่วประเทศ โดยมี
นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
รักษาการที่ปรึกษา สพฐ. นายภูริวรรษ คำอ้ายกาวิน
ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา
รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยพัฒนาคุณภาพการศึกษา นายชนาธิป ทุ้ยแป
ผู้อำนวยการสำนักทดสอบทางศึกษา รวมถึงผู้อำนวยการ สพม. จำนวน 50 คน รองผอ. สพท จำนวน 9 คน ศึกษานิเทศก์ กว่า 120 คน และนักวิชาการศึกษาและบุคลากรของ สพฐ. จาก 5 สำนัก ได้แก่ สทศ. สวก. สบว. สบม. ศนฐ.
เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
เป็นการประชุมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจบทบาท
หน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในการส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาให้พร้อมรับการประเมิน
PISA 2025 รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแผนการดำเนินงานยกระดับผลการประเมินจากโปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล
(PISA) ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
และให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้นำเสนอแนวทางการขับเคลื่อน PISA 2025 ต่อที่ประชุม
โอกาสนี้
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้กล่าวเปิดการประชุมและมอบนโยบาย
การยกระดับผลประเมิน PISA เป็นเรื่องที่พลตำรวจเอก
เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญและเน้นย้ำให้ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
ซึ่งการยกระดับผลประเมิน PISA นั้นจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย
ทั้งส่วนกลางและเขตพื้นที่
ในการร่วมกันวางแผนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาและผลประเมิน PISA 2025 ให้สูงขึ้น โดยต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้อำนวยการสถานศึกษาและครูให้มีความตระหนักถึงความสำคัญของการยกระดับผลประเมิน
PISA 2025 และขับเคลื่อนตามแผนขับเคลื่อนฯ
อย่างจริงจัง
ทั้งการจัดการเรียนการสอนให้เด็กฝึกคิดวิเคราะห์เพื่อพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน
ด้านวิทยาศาสตร์ และด้านคณิตศาสตร์
รวมถึงสนับสนุนให้ผู้เรียนมีความเชี่ยวชาญในการทำข้อสอบตามแนว PISA ด้วยระบบคอมพิวเตอร์
และควรสร้างจิตสำนึกให้ผู้เรียนว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของประเทศไทย
ซึ่งผลจากการประเมินจะเป็นข้อมูลชี้วัดคุณภาพการจัดการศึกษาของประเทศเราเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น
ๆ
ทางด้าน
นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. ขอให้
ผอ.เขตพื้นที่ร่วมผนึกกำลังยกระดับมาตรฐานการศึกษาทั้งประเทศ
และเตรียมความพร้อมในการประเมิน PISA 2025 ขับเคลื่อนดำเนินกิจกรรมตามแผนที่กำหนดไว้อย่างเข้มแข็ง
อีกทั้งการบูรณาการความร่วมมือต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจาก สพม.
ที่มีโรงเรียนที่มีผล PISA 2022 มากกว่าค่าเฉลี่ย
OECD เพื่อช่วยเหลือทั้งโรงเรียนเครือข่าย
และโรงเรียนขยายโอกาสที่มีผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย PISA 2025 เพื่อการยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งประเทศ ขณะที่ ผอ.สพม.
ศึกษานิเทศก์ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องเข้าใจข้อสอบตามแนว PISA ทั้งรูปแบบและรายละเอียดผลการประเมิน
จึงจะสามารถดำเนินการวิเคราะห์จุดแข็ง/จุดอ่อน ระดับเขต ระดับสถานศึกษา
และระดับผู้เรียนได้
เพื่อใช้ความรู้ความเข้าใจในการวางแผนส่งเสริมจุดแข็งและแก้ไขจุดอ่อนต่อไป
“อีกส่วนที่สำคัญ คือ ทางเขตพื้นที่ต้องมีข้อมูลผู้เรียนที่ถูกสุ่มในการสอบ
PISA 2025 และการจัดการเรียนรู้ต้องสอนให้ผู้เรียนรักการอ่าน
จับประเด็น สามารถคิดวิเคราะห์ได้
บูรณาการความรู้และนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ซึ่งตัวชี้วัดนี้ได้ถูกกำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ปรับปรุง พ.ศ. 2560) อยู่แล้ว
หากผู้เรียนมีสมรรถนะตามหลักสูตรฯ ก็จะส่งผลให้การประเมิน PISA อยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้
ต้องขอชื่นชม ผอ.เขตพื้นที่มัธยมศึกษาทุกท่าน ที่นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ
และเห็นถึงแนวทางการขับเคลื่อนที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม ขอบคุณผอ.เขตพื้นที่
และศึกษานิเทศก์ ในการร่วมสร้างพลังในการขับเคลื่อนในครั้งนี้ อีกทั้งยังเห็นถึงการนำนโยบาย
“เรียนดี มีความสุข” ของ รมว.ศธ. และนโยบายและจุดเน้นของ สพฐ.
ลงสู่การปฏิบัติอย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว